ศูนย์รวมคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Seafile

ยินดีต้อนรับสู่ ศูนย์รวมคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Seafile ที่นี่คุณจะพบคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับ Seafile ทั้งเรื่องการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ การซิงค์ไฟล์ การทำงานร่วมกัน ไปจนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือผู้ดูแลระบบที่มีประสบการณ์ คู่มือ Seafile (FAQ) นี้ จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Seafile จะจัดเก็บเวอร์ชันของไฟล์ ตามการตั้งค่าประวัติเวอร์ชัน ที่กำหนดไว้สำหรับคลังข้อมูล คุณสามารถตั้งค่าให้เก็บไว้เป็นจำนวนวัน (เช่น 365 วัน) หรือจะเก็บเวอร์ชันไว้แบบไม่มีกำหนดก็ได้

เพราะ Seafile ใช้ระบบการเก็บเวอร์ชันแบบ "ช่วงเวลา" ซึ่งการแก้ไขหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ (ค่าเริ่มต้นคือ 1 ชั่วโมง) จะถูกรวมให้เป็น "เวอร์ชันเดียว" และการเพิ่มแท็กให้ไฟล์ (Tags) จะไม่ถือว่าเป็นการสร้างเวอร์ชันใหม่

ได้ คุณสามารถคลิกขวาที่ไฟล์ในหน้าเว็บ (Web UI) จากนั้นเลือก "History" (ประวัติ) หรือ "Versions" (การจัดการเวอร์ชัน) แล้วเลือกกู้คืนไฟล์เวอร์ชันที่ต้องการ หากเปิดใช้งานการกำหนดเวอร์ชันไว้

แท็กจะถูกบันทึกพร้อมกับเวอร์ชันที่ใช้แท็กนั้นๆ แต่การติดแท็กเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถสร้างเวอร์ชันใหม่ของไฟล์ขึ้นมาได้

ส่วนนี้จะแสดงเหตุการณ์ การสร้างไฟล์ เปลี่ยนชื่อไฟล์ และลบไฟล์ แต่จะไม่แสดงการแก้ไขและการดาวน์โหลดไฟล์

ต้องเปิดการใช้งานระบบบันทึกกิจกรรม ในไฟล์ seafile.conf โดยตั้งค่า enable_audit = trueหลังจากนั้น ใช้แผงควบคุมสำหรับผู้ดูแลระบบ หรือตรวจสอบจากการบันทึก เพื่อดูประวัติการเข้าถึงโดยละเอียด

ได้ หากเปิดใช้งานระบบบันทึกการตรวจสอบแล้ว ระบบจะบันทึกการดูไฟล์ ดาวน์โหลด อัปโหลด ลบไฟล์ และแชร์ไฟล์ไว้ทั้งหมด

ในระบบทั่วไปแทบจะไม่มีผลกระทบ แต่ในระบบขนาดใหญ่หรือมีผู้ใช้งานจำนวนมาก อาจจะมีผลกระทบเล็กน้อย เนื่องจากต้องมีการเขียนข้อมูลลงฐานข้อมูล และใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น

บันทึกการตรวจสอบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา ควรมีการตั้งค่า ลบหรือล้างข้อมูลตามรอบ เพื่อไม่ให้ใช้พื้นที่ดิสก์มากเกินไป

ไฟล์ที่ถูกล็อกจะไม่สามารถถูกแก้ไขโดยผู้อื่นได้ ผู้ที่ล็อกไฟล์ไว้จะสามารถทำการแก้ไขไฟล์ได้ตามสิทธิ์ ผู้ใช้รายอื่นจะเห็นไอคอนรูปกุญแจล็อกและอาจถูกจำกัดสิทธิ์การแก้ไข

ได้ครับ การล็อกไฟล์มีผลเฉพาะกับผู้ใช้รายอื่นเท่านั้น แต่ไม่มีผลกับผู้ใช้ที่ล็อกไฟล์

ใช่ครับ มันจะช่วยป้องกันการแก้ไขที่ขัดแย้งกัน โดยการจำกัดสิทธิ์การเขียนสำหรับผู้อื่น ยกเว้นผู้ใช้ที่ล็อกไฟล์ไว้

เพราะโปรแกรมใช้ระบบ "ล็อกอัตโนมัติ" ซึ่งจะปลดล็อกเมื่อปิดไฟล์ ส่วนบนเว็บคือ "ล็อกด้วยตนเอง" จึงยังแสดงให้เห็นอยู่จนกว่าจะมีคนปลดล็อกเอง

ทำได้ แต่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในการแก้ไข ควรใช้การล็อกแบบแมนนวลหรืออัตโนมัติเพื่อป้องกันการแก้ไขซ้ำซ้อน

ไม่ได้ เนื่องจากข้อจำกัดของเบราว์เซอร์ ผู้ใช้จะต้องเลือก "Open via Client" เพื่อเปิดผ่านโปรแกรมบนเครื่องแทน

ใช่ นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ Web UI ในการส่งมอบไฟล์ให้กับโปรแกรมไคลเอนต์ Seafile บนเดสก์ท็อปได้อย่างปลอดภัย

“My Libraries” คือคลังไฟล์ที่คุณเป็นเจ้าของ ส่วน “Shared with me > My Library” จะปรากฏเมื่อคุณแชร์คลังไฟล์ของตัวเองเข้ากลุ่ม แล้วมันจะถูกแชร์กลับมาที่คุณในฐานะสมาชิกกลุ่ม

เพราะคลังนั้นมันยังคงเป็นคลังไฟล์ของคุณเอง และคุณมีสิทธิ์เขียน (เขียน/อัปโหลด) แม้ว่าจะดูเหมือนถูกแชร์จากกลุ่มก็ตาม

ได้ ผู้ดูแลระบบสามารถปิดฟีเจอร์การสร้างคลังไฟล์ส่วนตัวได้ กรุณาติดต่อผู้ดูแลระบบ Seafile หรือผู้ให้บริการของคุณ

ปิดการใช้งานคลังไฟล์ส่วนตัวใน Seafile และจัดทำนโยบายหรือคู่มือให้พนักงานเปลี่ยนไปใช้ OneDrive แทน

การอัปโหลดจะค้างในหน้า Web UI โดยไม่มีข้อความแสดงข้อผิดพลาด เซิร์ฟเวอร์จะปฏิเสธการอัปโหลด แต่ไม่แสดงข้อความแจ้งเตือน

เป็นข้อจำกัดของระบบ UI เมื่อผู้ใช้พยายามอัปโหลดไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ที่ไม่มีสิทธิ์เขียน เซิร์ฟเวอร์จะปฏิเสธการอัปโหลดโดยไม่มีการแจ้งเตือนข้อผิดพลาด

Client อนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ได้แม้จะไม่มีสิทธิ์เขียน แต่การซิงค์จะล้มเหลวเนื่องจากไม่มีสิทธิ์ในการเขียน การเปลี่ยนแปลงจะยังคงมองเห็นได้ในเครื่องจนกว่าจะมีการรีเฟรช

แนะนำให้ทำการสำรองข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์รายวัน (Snapshot) และเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลา 7 วัน

โดยทั่วไปจะเก็บไว้ 7 วัน อ้างอิงจากการสำรองข้อมูลแบบ Snapshot รายวัน

มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่จะขึ้นอยู่กับขนาดของดิสก์ที่ต้องการสำรองข้อมูล (Backup) โดยมีตัวเลือกให้หลายแบบ เช่น Snapshot : สามารถกู้คืนทั้งเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง, การสำรองข้อมูลไปยังพื้นที่จัดเก็บ : ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่ใช้เวลาในการกู้คืนมากกว่า ทั้งนี้การกู้คืนในระดับไฟล์ สามารถทำได้ทันทีผ่านระบบ Seafile และไม่เกี่ยวข้องกับบริการ Backup ทั้งระบบ

เนื่องจาก Seafile มีระบบเก็บประวัติไฟล์ย้อนหลังอยู่แล้ว (เช่น ย้อนหลังได้ถึง 365 วัน หรือมากกว่านั้น) ดังนั้นการกู้คืนจากสแนปช็อต (Snapshot) ล่าสุดภายใน 7 วัน ก็ยังสามารถเข้าถึงไฟล์เวอร์ชันเก่าๆก่อนหน้านั้นได้ทั้งหมด

ใช่ Seafile จะเก็บประวัติการแก้ไขไฟล์ไว้ภายในระบบของตัวเอง โดยไม่ขึ้นอยู่กับการสำรองข้อมูลระดับเซิร์ฟเวอร์

ได้ ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ส่วน "ไฟล์ที่ถูกลบ" ในประวัติของไฟล์นั้่นๆ และกู้คืนไฟล์ได้โดยตรง

อยู่ในหน้าเว็บ (Web UI) ให้เปิดไฟล์ที่ต้องการ จากนั้นใช้ปุ่ม "ประวัติ" (History) หรือ "ไฟล์ที่ถูกลบ" (Deleted Files) เพื่อดูและกู้คืนไฟล์รายการที่ถูกลบ

ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบ เช่น อาจจะเก็บไว้ 365 วัน หรือไม่จำกัด หากยังอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด ก็สามารถกู้คืนได้

ใช่ เราสามารถกำหนดบทบาทเองได้ แล้วนำไปกำหนดให้กับผู้ใช้แต่ละคนหรือกลุ่มได้ บทบาทเหล่านี้สามารถกำจัดเฉพาะได้ เช่น การปิดใช้งานความสามารถในการสร้างลิงก์สำหรับแชร์ภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์กรของคุณ

ยังมีคำถามอยู่หรือไม่?

ทีมสนับสนุนของเราพร้อมช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Seafile