ข้ามไปยังเนื้อหา
การเปรียบเทียบคุณสมบัติของ Seafile กับ Egnyte เพื่อการแบ่งปันไฟล์ที่ปลอดภัย

Seafile vs Egnyte

Seafile Pro กับ Egnyte

คู่มือเปรียบเทียบโซลูชันการแชร์ไฟล์สำหรับองค์กรแบบ ครบ จบ ในที่เดียว

เมื่อต้องเลือกใช้ระหว่าง Seafile Pro กับ Egnyte สำหรับการแชร์ไฟล์และการทำงานร่วมกันในระดับองค์กร การตัดสินใจเลือกนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งต้นทุนการดำเนินงานและการควบคุมข้อมูล ทั้งสองแพลตฟอร์มต่างก็มีความสามารถในการจัดการเอกสารได้ดี แต่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แนวคิดและความต้องการทางเทคนิคที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

การเปรียบเทียบ Seafile Pro กับ Egnyte จะช่วยวิเคราะห์ทุกแง่มุมที่สำคัญของแพลตฟอร์มระดับองค์กร ตั้งแต่ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ต้นทุนรวมในการใช้งาน ไปจนถึงความสามารถในการควบคุมข้อมูลและความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าคุณจะเป็น SME ที่ต้องคำนึงถึงต้นทุน หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมข้อมูล การเข้าใจความแตกต่างพื้นฐานระหว่างโซลูชันเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

การเปรียบเทียบระหว่าง Seafile Pro กับ Egnyte มักจะเน้นไปที่ การควบคุมระบบเองได้ กับความสะดวกในการใช้งาน หากองค์กรต้องการควบคุมข้อมูลอย่างสมบูรณ์ มีต้นทุนที่คาดการณ์ได้ในระยะยาว และอยากปรับแต่งแชร์ไฟล์ให้เข้ากับโครงสร้างภายใน Seafile Pro คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เพราะเป็นระบบที่พัฒนาได้อย่างอิสระ ทำให้องค์กรสามารถติดตั้ง ปรับแต่ง และดูแลระบบได้ตามความต้องการ ในขณะเดียวกัน หากองค์กรเน้นเรื่องความสะดวก รวดเร็ว และต้องการใช้บริการคลาวด์ที่พร้อมใช้งานได้ทันที Egnyte คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI มีฟีเจอร์ครบครัน และรองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องมือระดับองค์กรได้อย่างหลากหลาย

การวิเคราะห์ Seafile Pro กับ Egnyte โดยละเอียดนี้ ได้เปรียบเทียบจุดเด่นและข้อจำกัดของแต่ละแพลตฟอร์มในหลากหลายแง่มุมที่สำคัญต่อธุรกิจ ทั้งโครงสร้างระบบ ความปลอดภัย ประสบการณ์ผู้ใช้ และต้นทุนระยะยาว เพื่อช่วยให้คุณพิจารณาว่าโซลูชันใดตอบโจทย์กับนโยบายการจัดการข้อมูลและเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีที่สุด

ข้อสรุปสั้นๆ: Seafile Pro เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ควบคุมข้อมูลได้เอง และบริหารต้นทุนระยะยาวได้ดี ในขณะที่ Egnyte เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบคลาวด์ที่ใช้งานง่าย พร้อมฟีเจอร์ AI และการเชื่อมต่อแบบครบวงจร

Seafile Pro

ระบบจัดเก็บและแชร์ไฟล์ระดับองค์กร สามารถเปิดให้ปรับแต่งระบบแชร์ไฟล์ได้ มีความปลอดภัยสูง ซิงค์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมข้อมูลเอง ประหยัดต้นทุน และออกแบบระบบได้ตามความต้องการ

Egnyte

แพลตฟอร์มการแชร์ไฟล์และการกำกับดูแลข้อมูลระดับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาพร้อมระบบจัดการคลาวด์อย่างครบวงจร การทำงานอัตโนมัติของเวิร์กโฟลว์ขั้นสูง และรองรับการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกได้อย่างหลากหลาย เหมาะสำหรับองค์กรสมัยใหม่

หัวข้อหลักที่เราจะนำมาเปรียบเทียบกันมีดังนี้

ตัวเลือกการติดตั้งและการควบคุมข้อมูล
กรอบความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
การนำ AI เข้ามาช่วยในการเชื่อมต่อระบบและการทำงานแบบอัตโนมัติ
โครงสร้างต้นทุนและการวิเคราะห์ต้นทุนรวมทั้งหมด (TCO)
ประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการขยายระบบ
ระบบการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมสำหรับองค์กร
การทำงานร่วมกันและการบริหารจัดการองค์ความรู้
การตั้งค่าระบบเฉพาะองค์กรและข้อผูกมัดกับผู้ให้บริการรายเดียว
การเปรียบเทียบการแชร์ไฟล์ระดับองค์กร Seafile Pro กับ Egnyte

Seafile Pro กับ Egnyte

การเปรียบเทียบคุณสมบัติที่ครอบคลุม

คุณสมบัติ Egnyte Seafile Pro
📁 การจัดเก็บข้อมูลและการจัดการไฟล์
ขนาดไฟล์ที่สามารถรองรับได้สูงสุด ข้อจำกัดขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ (อัพโหลดทางเว็บได้สูงสุด 100GB) ไม่มีข้อจำกัดตายตัว (อิงตามระบบไฟล์)
จำกัดความยาวของชื่อไฟล์/โฟลเดอร์ ชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ยาวไม่เกิน 245 ไบต์ และจำกัดความยาวของที่อยู่ไฟล์ทั้งหมดไม่เกิน 5,000 ไบต์ ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ ไม่มีการบังคับใช้ขีดจำกัด
ตัวอักษรพิเศษ มีข้อจำกัดในการตั้งชื่อไฟล์ รองรับมาตราฐาน POSIX พร้อมข้อจำกัดที่น้อยที่สุด
ความสามารถในการขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูล อิงราคาตามแพ็กเกจ ราคาแพงหากใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก หากเลือกติดตั้งและดูแลระบบเอง จะสามารถใช้งานได้แบบไม่จำกัด
การลดข้อมูลซ้ำซ้อนของไฟล์ การลดข้อมูลซ้ำซ้อนที่จำกัด การลดข้อมูลซ้ำซ้อนในระดับบล็อกขั้นสูง
การสแกนไวรัส มีการสแกนไวรัสภายในตัว การเชื่อมต่อกับโปรแกรมป้องกันไวรัสที่สามารถปรับการตั้งค่าได้
การค้นหาไฟล์ การค้นหาข้อความแบบเต็มรูปแบบด้วยความสามารถของ AI การค้นหาเอกสารอย่างละเอียด ทั้งจากเนื้อหาและข้อมูลที่กำกับ
🔄 ระบบการควบคุมเวอร์ชัน
วิธีการจัดการเวอร์ชัน คัดลอกไฟล์ทั้งชุดทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ลดข้อมูลซ้ำซ้อนในระดับบล็อก เพื่อประหยัดพื้นที่
การเก็บรักษาเวอร์ชัน กำหนดค่าได้ แต่อาจมีข้อจำกัด ไม่จำกัด หรือขึ้นอยู่กับนโยบายที่ตั้งไว้
ผลกระทบต่อพื้นที่จัดเก็บ ใช้พื้นที่มาก (เพราะเก็บทั้งไฟล์) ใช้พื้นที่น้อย (เพราะเก็บเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลง)
การเปรียบเทียบเวอร์ชัน ดูประวัติเฉพาะเวอร์ชันพื้นฐาน ดูประวัติแบบ Git (เห็นรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงชัดเจน)
⚡ ประสิทธิภาพ
การเชื่อมต่อไดรฟ์ แอปบนเดสก์ท็อปแบบซิงค์ข้อมูลลงในเครื่อง โปรแกรมไดรฟ์แบบดั้งเดิม + ไดรฟ์เสมือน
การรองรับคลังไฟล์ขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพลดลงเมื่อมีไฟล์จำนวนมาก ออกแบบมาให้ทำงานได้ดีแม้มีไฟล์นับล้าน
ความเร็วในการซิงค์ อาจช้า เมื่อซิงค์กับไฟล์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับไฟล์ทุกขนาด
การเพิ่มประสิทธิภาพแบนด์วิดท์ ซิงค์เฉพาะส่วนต่างพื้นฐาน ซิงค์แบบขั้นสูง และมีการบีบอัดข้อมูลเพื่อให้ทำงานเร็วขึ้น
การเข้าถึงแบบออฟไลน์ ใช่ ใช่
👥 การทำงานร่วมกัน
การแก้ไขร่วมกันแบบเรียลไทม์ ผ่านการเชื่อมต่อกับ Microsoft Office ผ่าน OnlyOffice / Collabora ร่วมกับ SeaDoc
การจัดการสิทธิ์เข้าถึง กำหนดสิทธิ์เข้าถึงโฟลเดอร์แบบละเอียด กำหนดสิทธิ์เป็นกลุ่ม พร้อมสร้างรหัสเพื่อเข้าสู่ระบบ
การแชร์ไฟล์ภายนอก ลิงค์แชร์ยืดหยุ่น ปรับได้ตามต้องการ แชร์ภายนอกอย่างปลอดภัย พร้อมการป้องกันด้วยรหัสผ่าน
การล็อกไฟล์ รองรับการล็อกไฟล์ทั้งแบบแมนนวลและอัตโนมัติ รองรับระบบล็อกไฟล์
การแสดงความคิดเห็นและคำอธิบายประกอบ แสดงความคิดเห็นในไฟล์ระดับพื้นฐาน แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายใน SeaDoc และไฟล์ได้
ระบบอัตโนมัติในการทำงาน ระบบมีเครื่องมือสร้างขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติ ระบบมี API ที่สามารถสร้างขั้นตอนการทำงานแบบอัตโนมัติและปรับแต่งตามความต้องการได้
🔒 ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
การควบคุมตำแหน่งข้อมูล โฮสต์บนคลาวด์ (บางระบบรองรับแบบไฮบริด) ควบคุมข้อมูลข้อมูลทั้งหมดในระบบขององค์กร
การเข้ารหัส เข้ารหัสฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (ผู้ให้บริการ) เป็นระดับมาตราฐานแต่จำกัดการเข้ารหัสฝั่งไคลเอนต์ (ลูกค้า) สามารถเข้ารหัสได้ทั้งสองฝั่ง
บันทึกการตรวจสอบ มีบันทึกการใช้งานที่ครอบคลุม มีบันทึกกิจกรรมของไฟล์อย่างละเอียด
การปฏิบัติตาม GDPR ความรับผิดชอบหลักอยู่ที่ผู้ให้บริการ (ระบบคลาวด์) ลูกค้าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลเองทั้งหมด
การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน มีระบบ 2FA ในตัว รองรับ 2FA พร้อมใช้งานร่วมกับ LDAP/SAML
การป้องกันข้อมูลสูญหาย มีนโยบายป้องกันข้อมูลรั่วไหลแบบขั้นสูง (DLP) ควบคุมการเข้าถึงไฟล์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น
การลบข้อมูลจากระยะไกล สามารถลบข้อมูลจากอุปกรณ์ระยะไกลได้ สามารถลบข้อมูลทั้งหมดในพื้นที่เก็บข้อมูลหลักจากอุปกรณ์ระยะไกลได้
💰 ค่าใช้จ่ายและค่าลิขสิทธิ์
รูปแบบการออกใบอนุญาต คิดค่าบริการเป็นแบบรายเดือนต่อผู้ใช้ ($20-38/ผู้ใช้/เดือน) ซื้อใบอนุญาตแบบครั้งเดียว + บริการสนับสนุนเสริมตามความต้องการ ($48/ผู้ใช้/ปี)
ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูล ราคาแพงสำหรับพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ ใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ตนเองมีอยู่แล้ว เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับองค์กร มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ต้นทุนในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก
ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป/ภายนอก ต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการออกใบอนุญาตเพิ่มเติม สามารถรวมผู้ใช้งานทั่วไปแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
🔗 การบูรณาการและการเชื่อมโยงกับระบบภายนอก
การผสานรวมชุดสำนักงาน รองรับ Microsoft Office และ Google Workspace โดยตรง ผสานรวมกับ OnlyOffice และ LibreOffice
แอปพลิเคชันภายนอก รองรับการเชื่อมต่อกับภายนอกได้อย่างหลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อกับภายนอกได้ค่อนข้างจำกัด
แอปพลิเคชันบนมือถือ แอปมือถือที่มีคุณสมบัติครบครัน ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือที่ยอดเยี่ยม
API และการปรับแต่ง API ที่เงียบสงบ โอเพ่นซอร์ส สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ
การรวม LDAP/AD รองรับ LDAP/AD รองรับผู้ให้บริการ LDAP/AD หลายราย
การลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียว (SSO) รองรับ SAML/OAuth2 SSO รองรับ SAML/OAuth2 SSO
⚙️ การติดตั้งและการจัดการ
ตัวเลือกการติดตั้ง ระบบจะถูกติดตั้งบนคลาวด์ (มีตัวเลือกไฮบริดที่ค่อนข้างจำกัด) สามารถเลือกติดตั้งระบบบนเซิร์ฟเวอร์ บนคลาวด์ หรือใช้บริการโฮสติ้งจากภายนอกได้
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา บริหารจัดการเต็มรูปแบบโดย Egnyte ต้องจัดการบำรุงรักษาระบบเอง (ควบคุมได้มากขึ้น แต่มีการทำงานเพิ่มมากขึ้น)
การสำรองข้อมูลและการกู้คืน ตัวเลือกการสำรองข้อมูลที่จำกัด ควบคุมกลยุทธ์การสำรองข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ
ความพร้อมในการใช้งาน ความพร้อมในการใช้งานของระบบเป็นไปตามข้อตกลงที่ Egnyte กำหนด ตั้งค่าระบบให้มีความพร้อมใช้งานได้เอง และเปลี่ยนผ่านไปยังระบบสำรองอัตโนมัติเมื่อเกิดปัญหา
การรองรับผู้ใช้งานหลายราย มีการแยกผู้เช่าในตัว รองรับการใช้งานหลายองค์กรในระบบเดียวได้ในตัว
🚀 คุณสมบัติขั้นสูง
การทำงานร่วมกับ AI AI Copilot สำหรับช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้านเนื้อหาและการทำงานอัตโนมัติ การแท็กไฟล์โดยใช้ AI ในระดับพื้นฐาน
การกำหนดเวอร์ชันแบบ Git ไม่สามารถใช้งานได้ บันทึกประวัติการแก้ไขไฟล์ในลักษณะเดียวกับ Git
การจัดระเบียบโครงสร้าง โครงสร้างแบบโฟลเดอร์ โครงสร้างห้องสมุดที่ยืดหยุ่นพร้อมการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย
การซิงค์ข้ามแพลตฟอร์ม รองรับ Windows/Mac/iOS/Android รองรับทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ Linux
การแสดงตัวอย่างไฟล์ รองรับรูปไฟล์แบบที่ครอบคลุม หลากหลาย รองรับการแสดงตัวอย่างไฟล์แบบพื้นฐานทั่วไป รวมถึงเอกสาร Microsoft Office
การจัดการความรู้ การจัดการเอกสารขั้นพื้นฐาน มีระบบ Wiki (ฐานความรู้) พร้อมโปรแกรมแก้ไข SeaDoc ภายในตัว
🔄 การย้ายและพกพาข้อมูล
การส่งออกข้อมูล การส่งออกข้อมูลขึ้นอยู่กับผู้ขาย ส่งออกเป็นระบบไฟล์มาตรฐาน
เครื่องมือสำหรับการย้ายข้อมูล มีแอปสำหรับย้ายข้อมูล สามารถนำเข้าข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มได้
ข้อจำกัดในการเปลี่ยนระบบ อาจถูกผูกมัดหรือพึ่งพาผู้ขายสูง โอกาสถูกผูกมัดน้อย เนื่องจากเป็นระบบโอเพนซอร์ส
💸 เปรียบเทียบราคาอย่างละเอียด
ค่าใบอนุญาตผู้ใช้งาน (สำหรับทีมขนาดเล็ก) ธุรกิจ: เดือนละ 700-1,330 บาทต่อผู้ใช้งาน ( ถ้ามี 8 ผู้ใช้งาน จะอยู่ที่ 5,600-10,640 บาทต่อเดือน ) สำหรับ 8 ผู้ใช้งานหรือน้อยกว่า: จ่ายรวมทั้งหมด 500 บาทต่อเดือน
ค่าใบอนุญาตผู้ใช้งาน (สำหรับทีมขนาดใหญ่) ธุรกิจ: เดือนละ 700-1,330 บาทต่อผู้ใช้งาน (ถ้ามี 50 ผู้ใช้งาน จะอยู่ที่ 35,000-66,500 บาทต่อเดือน) สำหรับ 50 ผู้ใช้งาน: จะอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน รวมกับ ค่าใช้จ่ายเซิร์ฟเวอร์
โครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ รวมอยู่ในแพ็กเกจ แต่ไม่มีการควบคุมต้นทุน แบบมาตรฐาน: 1,500 บาทต่อเดือน, แบบมืออาชีพ: 2,500 บาทต่อเดือน
ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูล รวมอยู่ในแพ็กเกจ แต่ถ้าต้องการซื้อพื้นที่เพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่เพิ่มเติมทุกๆ 100GB คือ 400 บาทต่อเดือน
การติดตั้งและการบำรุงรักษา รวมอยู่ในค่าสมัครสมาชิกรายเดือน ค่าใช้จ่ายคงที่ในราคา 2,000 บาทต่อเดือน ต่อเซิร์ฟเวอร์
ตัวอย่าง: ผู้ใช้งาน 10 คน, พื้นที่ 500GB 7,000-13,300 บาทต่อเดือน 6,100 บาทต่อเดือน (รวมโปรเซิร์ฟเวอร์ 10 ผู้ใช้งาน + พื้นที่เพิ่มเติม 400GB + ค่าติดตั้ง)
ตัวอย่าง: ผู้ใช้งาน 50 คน, พื้นที่ 2TB 35,000-66,500 บาทต่อเดือน 19,900 บาทต่อเดือน (รวมโปรเซิร์ฟเวอร์ 50 ผู้ใช้งาน + พื้นที่เพิ่มเติม1.8TB + ค่าติดตั้ง)
ตัวอย่าง: ผู้ใช้งาน 100 คน, พื้นที่ 5TB 70,000-133,000 บาทต่อเดือน 36,900 บาทต่อเดือน (รวมโปรเซิร์ฟเวอร์ 100 ผู้ใช้งาน + พื้นที่เพิ่มเติม 4.8TB + ค่าติดตั้ง)
การประหยัดรายปี (สำหรับ 100 ผู้ใช้) ต้นทุนพื้นฐาน ประหยัดถึง 396,000-1,152,000 บาทต่อปี
📚 การสนับสนุนและเอกสารประกอบ
คุณภาพของเอกสารประกอบ มีเอกสารประกอบที่ครอบคลุมทุกด้านอย่างละเอียด มีเอกสารที่เป็นโอเพนซอร์สจาก Google
การสนับสนุนผู้ใช้งาน ชุมชนจำกัด ชุมชนโอเพ่นซอร์สที่แอคทีฟ
การสนับสนุนจากทีมงาน รวมบริการสนับสนุนระดับองค์กร ตัวเลือกการสนับสนุนจากผู้ให้บริการค่อนข้างจำกัด
แหล่งการเรียนรู้และฝึกอบรม มีการฝึกอบรมแบบมืออาชีพ บทเรียนที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน

ลิขสิทธิ์ © 2025 บริษัท เน็ตโซล จำกัด สงวนลิขสิทธิ์